ให้คำปรึกษาผลิตและสร้างแบรนด์ฟรี Hotline : 066-112-1159

SPF และ PA ในครีมกันแดด : รู้เท่าทัน ปกป้องผิวอย่างมั่นใจ

แดดแรง แสงจ้า ภัยร้ายทำร้ายผิว! หลายคนคงคุ้นเคยกับ ครีมกันแดด ไอเท็มคู่กายที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด แต่เคยสงสัยไหมว่า SPF และ PA บนฉลากครีมกันแดด หมายถึงอะไร และสำคัญอย่างไร ?

บทความนี้จะพาคุณมาไขข้อข้องใจ เรียนรู้ความหมายและความสำคัญของ SPF และ PA เพื่อเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวของคุณ

SPF : ปกป้องผิวจากรังสียูวีบี

SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันผิวจาก รังสียูวีบี (UVB) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ อาการผิวไหม้แดด

  • ครีมกันแดดที่มี SPF 15 หมายความว่า ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้มากกว่าผิวปกติ 15 เท่า
  • SPF 30 ป้องกันได้ 96.7%
  • SPF 50 ป้องกันได้ 98%
  • SPF 100 ป้องกันได้ 99%

การเลือกค่า SPF ที่เหมาะสม:

  • ผิวทั่วไป: SPF 30 ขึ้นไป
  • ผิวขาว: SPF 50+
  • กิจกรรมกลางแจ้ง: SPF 50+
  • ริมทะเล: SPF 50+

PA : ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ

PA ย่อมาจาก Protection Grade of UVA บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันผิวจาก รังสียูวีเอ (UVA) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ ริ้วรอยก่อนวัย และ ผิวคล้ำเสีย

  • PA+ ป้องกันผิวจากรังสียูวีเอได้ 2-4 เท่า
  • PA++ ป้องกันผิวจากรังสียูวีเอได้ 6-8 เท่า
  • PA+++ ป้องกันผิวจากรังสียูวีเอได้ 8-16 เท่า
  • PA++++ ป้องกันผิวจากรังสียูวีเอได้ มากกว่า 16 เท่า

การเลือกค่า PA ที่เหมาะสม:

  • ผิวทั่วไป: PA++ ขึ้นไป
  • ผิวขาว: PA+++ ขึ้นไป
  • กิจกรรมกลางแจ้ง: PA+++ ขึ้นไป
  • ริมทะเล: PA++++

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15-20 นาที
  • ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังว่ายน้ำ เช็ดเหงื่อ
  • เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว
  • ทดสอบครีมกันแดดก่อนใช้จริง

แหล่งข้อมูล: